Warning: Trying to access array offset on value of type null in /home/vsotour/public_html/administrator/components/com_easyarticles/includes/post/adapters/com_content.php on line 397
"วังนารายณ์ ลพบุรี" กับ 10 จุดสำคัญทางประวัติศาสตร์
วันนี้ VSOTOUR ขอพาทุกท่านมาเที่ยววังนารายณ์ราชนิเวศน์ หรือ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสมเด็จพระนารายณ์ จังหวัดลพบุรี พระราชวังสมัยกรุงศรีอยุธยาที่ยังคงสภาพของความสวยงามและสมบูรณ์มากที่สุด มีคุณค่าทางด้านประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และโบราณคดี ที่แสดงถึงความรุ่งเรืองในอดีต สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้สร้างพระราชวังที่เมืองลพบุรี (ละโว้) ขึ้นเมื่อ พ.ศ.2209 เพื่อใช้ประทับ ต้อนรับแขกเมืองและออกว่าราชการ พื้นที่ด้านในแบ่งออกเป็น 3 เขต พระราชฐาน คือ เขตพระราชฐานชั้นนอก ชั้นกลางและชั้นใน มีพระที่นั่งและสิ่งก่อสร้างที่สำคัญมากมาย โดยทรงประทับอยู่ที่นี่ปีละ 8-9 เดือน และสวรรคตที่วังแห่งนี้ ต้องเรียกว่าทรงโปรดเมืองละโว้แห่งนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว ถ้าทุกท่านพร้อมแล้วเดินตามออเจ้าเข้าวังกันมาเลยค่ะ
เมื่อผ่านประตูวังเข้ามาแล้ว เราจะพบจุดจำหน่ายตั๋วจะอยู่ทางด้านขวามือ คนไทยราคา 30 บาท ชาวต่างชาติราคา 150 บาท ได้รับตั๋วกับโบรชัวร์ประวัติรายละเอียดของวังนารายณ์แล้วไปเดินชมด้านในกันค่ะ
"โบรชัวร์ประวัติรายละเอียดของวังนารายณ์"
จุดแรกที่สะดุดตาทางด้านซ้าย คืออาคารสำนักงานพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นเรือนปั้นหยา ๒ ชั้น สร้างด้วยไม้สักทองทั้งหลัง ซึ่งในอดีตคือจวนผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ส่วนทางด้านขวาขึ้นไป จะเป็นอาคารจะสิ่งปลูกสร้าง ในบริเวณนี้เราจะเรียกว่า เขตพระราชฐานส่วนนอก เรามาชมกันดีกว่าค่ะว่ามีอะไรบ้าง
เรามาเริ่มต้นกันที่ อ่างเก็บน้ำ หรือถังเก็บน้ำประปาที่ไว้กักเก็บน้ำสำหรับใช้ภายในพระราชวัง โดยชาวฝรั่งเศสและชาวอิตาลีได้สร้างท่อดินเผาเพื่อนำน้ำจากอ่างซับเหล็ก มาใช้ในพระราชวังและในเมืองลพบุรี
อ่างเก็บน้ำ
สิบสองท้องพระคลัง ตั้งอยู่ระหว่างถังเก็บน้ำประปาและตึกเลี้ยงรับแขกเมือง ตัวอาคารสร้างขึ้นชิดติดกัน จำนวน 12 ห้อง ลักษณะค่อนข้างทึบ มีถนนผ่ากลาง เป็นสถานที่เก็บสินค้าและเก็บสิ่งของต่างๆเพื่อใช้ในราชการ
สิบสองท้องพระคลัง
ตึกเลี้ยงรับรองแขกเมือง เป็นสถานที่เลี้ยงต้อนรับคณะราชทูต ชาวต่างประเทศที่มาติดต่อในสมัยนั้น มีบันทึกชาวฝรั่งเศษกล่าว รอบๆตัวตึกมีน้ำล้อมรอบและด้านในมีน้ำพุ 20 แห่ง ที่สมเด็จพระนารายณ์พระราชทานเลี้ยงแก่คณะทูตจากฝรั่งเศส
ตึกเลี้ยงรับรองแขกเมือง
ตึกพระเจ้าเหา เป็นหอพระประจำพระราชวัง ประดิษฐานพระพุทธรูปชื่อว่า "พระเจ้าเหา" ในอดีตประตูหน้าต่างมีความสวยงามเป็นซุ้มเรือนแก้วฐานสิงห์ บริเวณกำแพงแก้วเจาะเป็นช่องสำหรับวางตะเกียงล้อมรอบตึก
ตึกพระเจ้าเหา
โรงช้างหลวง เป็นที่อยู่ของช้างหลวงและช้างพระที่นั่ง สำหรับประพาสป่าล่าสัตว์ เดิมที่มีทั้งหมด 30 โรง ตั้งเป็นแถวเรียงรายริมกำแพง เขตพระราชฐานชั้นนอก ปัจจุบันพังเหลือแต่ฐานให้เห็นประมาณ 10 โรง
โรงช้างหลวง
เมื่อเราเดินมาจนสุดบริเวณโรงช้างหลวงแล้วจะพบกับแนวกำแพงและประตูเพื่อเข้าสู่เขตพระราชฐานชั้นกลาง ซึ่งสามารถมองเห็นพระที่นั่งจันทรพิศาลจากมุมนี้ได้เลยค่ะ
"มีภาพสวยๆที่ถ่ายคู่กับกำแพงโรงเลี้ยงช้างหลวงมาฝากค่ะ"
พระที่นั่งจันทรพิศาล สันนิษฐานว่าเป็นพระที่นั่งแห่งแรกที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อประทับออกว่าราชการแผ่นดินและประชุมองคมนตรี ปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงนิทรรศการถาวรเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มีภาพประวัติศาสตร์เหตุการณ์สำคัญและโบราณวัตถุ ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ซึ่งมีเรื่องราวน่าสนใจมากกมาย ตามมาชมกันต่อได้เลยค่ะ
พระที่นั่งจันทรพิศาล
"ภาพพิมพ์เหตุการณ์ครั้งคณะราชทูตสยามเข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ที่พระราชวังแวร์ซายส์ เมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2229"
"ภาพการเข้าเฝ้าถวายพระราชสาสน์ของพระเจ้าหลุยส์ ที่ 14 ต่อสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ที่พระบรมมหาราชวัง พระนครศรีอยุธยา"
"สนธิสัญญาระหว่างไทยกับฝรั่งเศส (ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ได้มีการทำสนธิสัญญากับฝรั่งเศส 3 ครั้ง)"
หลังจากชม พิพิธภัณฑ์จัดแสดงประวัติศาสตร์ชาติไทยรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ที่พระที่นั่งจันทรพิศาลเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็เดินมาชมหมู่พระที่นั่งพิมานมงกุฎกันต่อเลยค่ะ โดยในจุดนี้เป็นอาคารทรงตึกสูง 3 ชั้น มุงกระเบื้องกาบูแบบจีน ชั้นที่ 2 ประกอบด้วย พระที่นั่งไชยศาสตรากร เป็นที่ไว้เก็บอาวุธ พระที่นั่งอักษรศาสตราคม ทรงพระอักษร พระที่นั่งตรงกลางคือ พระที่นั่งวิสุทธิวินิจฉัย ใช้เสด็จออกว่าราชการ ชั้นที่ 3 พระที่นั่งพิมานมงกุฎ เป็นที่ประทับส่วนพระองค์และห้องบรรทม พระที่นั่งแห่งนี้จัดแสดงนิทรรศพัฒนาการเมืองลพบุรี ตั้งแต่ก่อนประวัติศาสตร์ถึงสมัยปัจจุบัน
หมู่พระที่นั่งพิมานมงกุฎ
"ก่อนเข้าชมด้านในอ่านระเบียบการเข้าชมพิพิธภัณฑ์กันก่อนนะคะ"
ชั้นที่ 1 จัดแสดงลำดับพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของเมืองลพบุรี ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ซึ่งมีอายุประมาณ 3,500 มาแล้ว หลักฐานที่พบ เช่น ภาชนะดินเผา โครงกระดูกมนุษย์ เปลือกหอย ส่วนชั้นที่ 2 จัดแสดงลำดับพัฒนาการเมืองลพบุรีที่ได้รับอิทธิผลจากศิลปะขอมในประเทศไทย เช่น พระพุทธรูปนาคปรก ทับหลัง และเทวรูป
ลำดับพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของเมืองลพบุรี
"ทับหลังสลักภาพพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ศิลปะเขมรที่พบในประเทศไทย"
ชั้นที่ 3 จัดแสดงนิทรรศการ เฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ทรงเป็นผู้บูรณะพระราชวัง เมื่อ พ.ศ. 2399 พร้อมทั้งพระราชทานนามว่า “พระนารายณ์ราชนิเวศน์”
เฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
"พระแท่นบรรทมของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว นำมาจากพระราชวังจันทรเกษม จ.อยุธยา"
หลังจากเรียนรู้ประวัติศาสตร์จากพระที่นั่งพิมานมงกุฎเสร็จแล้ว เราก็ไปที่พระที่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญญมหาปราสาท กันต่อเลยค่ะ ซึ่งนับว่าพระที่นั่งแห่งนี้มีความสำคัญในประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก เชื่อว่าหลายๆท่านคงจะจำฉากในละครบุพเพสันนิวาส ที่ราชทูตฝรั่งเศส ถวายพระราชสาส์นของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ต่อ สมเด็จพระนารายณ์ หรือในหนังสือแบบเรียนก็มักจะมีรูปภาพนี้ปรากฏเสมอ พระที่นั่งแห่งนี้เป็นที่เสด็จออกรับคณะราชทูตจากต่างประเทศ มีหลังคาเป็นทรงมณฑปยอดแหลมที่เรียกว่า มหาปราสาท
"สมเด็จพระนารายณ์จะทรงประทับบนสีหบัญชร เสด็จออกรับราชทูตจากต่างประเทศ"
และเมื่อเราเดินทะลุประตูวังจากทางด้านซ้ายของพระที่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญญมหาปราสาท ก็จะเป็นในส่วนสุดท้ายของพระราชวัง นั่นคือพระราชฐานชั้นใน ซึ่งเป็นที่ตั้งของพระที่นั่งสุทธาสวรรย์ ที่ประทับส่วนพระองค์ในสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระองค์สวรรคต ณ พระที่นั่งแห่งนี้ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2231 แม้ในปัจจุบันเหลือเพียงแต่ฐานราก แต่ยังทรงคุณค่าและมีร่องรอยความสวยงามในอดีต
การเยี่ยมชมวังนารายณ์ จังหวัดลพบุรีเป็นการท่องเที่ยวและเรียนรู้ผ่านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจของประเทศไทย ตั้งแต่สถาปัตยกรรมอันวิจิตรงดงามไปจนถึงสวนอันเงียบสงบ ทุกมุมของอาคารพระราชวังแห่งนี้บอกเล่าเรื่องราวของยุคอดีต และไฮไลท์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ งานวังนารายณ์ที่จะจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ในสโลแกน “นุ่งโจงห่มสไบ” ดังนั้นหากคุณไม่อยากพลาดความสวยงามของสถานที่แห่งนี้ พวกเราชาว Vsotour ขอเชิญทุกท่านมาย้อนรอยประวัติศาสตร์ ที่รับรองว่าจะกลับไปพร้อมกับความประทับใจและภาพสวยๆอย่างแน่นอนค่ะ และสำหรับท่านใดที่อยากติดตามบทความคุณภาพ แชร์ประสบการณ์ หรือแนะนำสถานที่เที่ยวต่างๆ ก็สามารถแบ่งปันผ่านเว็บไซต์ Vsotour https://vsotour.com/index.php/en/ หรือเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/vsotour/