เมื่อวันที่ 19 กันยายน ที่ผ่านมากลุ่มดุสิตธานีแถลงเดินหน้าขยายตัวธุรกิจอย่างต่อเนื่อง  ด้วยการเปิดตัว 2 แบรนด์ใหม่  " ดุสิต คอลเลคชั่น " ( Dusit Collection )  และ  " เดวาราณา-ดุสิต รีทรีตส์ " ( Devarana-Dusit Retreats ) เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดลักซูรี่ที่กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

โดย " ดุสิต คอลเลคชั่น "  เน้นมุ่งจับกลุ่มเจ้าของโรงแรมสแตนด์อโลน และ อสังหาริมทรัพย์ระดับลักซูรี่ ที่มีความต้องการรักษาแบรนด์และภาพลักษณ์ไว้อย่างเหนียวแน่น

ในขณะที่ " เดวาราณา-ดุสิต รีทรีตส์ " เป็นในส่วนรูปแบบงานบริการที่พัก สำหรับการมอบการบริการฟื้นฟูร่างกายและเยียวยาจิตใจ  ขณะพักผ่อนบนที่พักสุดหรูหราและมีความเป็นส่วนตัว  ท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบทั่วโลก ซึ่ง คาดว่าพร้อมเปิดบริการแห่งแรกประมาณเดือนตุลาคมในประเทศจีน 2566  ก่อนที่จะเปิดให้บริการ ครอบคลุมทั้งยุโรป ตะวันออกกลางและจีนภายในปีนี้


Schedule

มล.จิลล์ เครตัลเลช
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน)

เปิดเผยว่า กลุ่มดุสิตธานี เดินหน้าขยายธุรกิจโรงแรมอย่างต่อเนื่องกับการเปิดตัว 2 แบรนด์ใหม่ ได้แก่ ดุสิต คอลเลคชั่น (Dusit Collection) และ เดวาราณา-ดุสิต รีทรีตส์ (Devarana – Dusit Retreats)

เพื่อรองรับตลาดที่พักระดับลักซูรี่ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยทั้ง 2 แบรนด์จะเพิ่มจำนวนแบรนด์ภายใต้ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท และวิลล่าหรู ที่มีอยู่เดิมภายใต้กลุ่มดุสิตธานี ให้ครอบคลุมและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกกลุ่มมากขึ้น และยังถือเป็นกลยุทธ์ในการเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจที่พักให้กระจายไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลกมากขึ้น

สำหรับแบรนด์ "ดุสิต คอลเลคชั่น" ถูกพัฒนาขึ้นมา เพื่อช่วยเจ้าของโรงแรมสแตนด์อโลนหรือเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซ์ชูรี ให้สามารถรักษาตัวตน และเสน่ห์ดั้งเดิมของแบรนด์ ในขณะเดียวกัน ก็สามารถเพิ่มศักยภาพในการให้บริการได้อย่างเป็นระบบ จากนักบริหารมืออาชีพที่มีประสบการณ์เชี่ยวชาญในงานบริหารโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก โดยไม่ต้องยุ่งยากในการรีแบรนด์หรือปรับใหม่แต่อย่างใดคุณสมบัติอันโดดเด่นของโรงแรมภายใต้แบรนด์ดุสิตคอลเลกชั่นคือ ตั้งอยู่ในโลเคชั่นที่น่าสนใจ ตัวโรงแรมมีความโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมและเรื่องราวที่น่าสนใจ และมีการตกแต่งอย่างลงตัว ผสมผสานเข้ากับเอกลักษณ์ของท้องถิ่นได้อย่างกลมกลืนซึ่งที่พักแบบนี้ กำลังเป็นที่ต้องการของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่มองหาประสบการณ์การท่องเที่ยวที่แท้จริง และแตกต่างไม่เหมือนใคร ซึ่งจะช่วยสร้างประสบการณ์อันน่าจดจำให้กับนักท่องเที่ยว

"เรามั่นใจว่า "ดุสิต คอลเลคชั่น" จะเป็นโมเดลที่มีประสิทธิภาพและสร้างความคุ้มค่าให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด โดยเจ้าของอสังหาริมทรัพย์จะได้รับการดูแลจากทีมที่แข็งแกร่งและเชี่ยวชาญในการบริหาร ที่มีความเข้าใจตัวตน และรักษาไว้ซึ่งความโดดเด่นของทรัพย์สินที่มีคุณค่า ขณะที่กลุ่มดุสิตธานีจะได้รับประโยชน์จากกลยุทธ์ที่สามารถเข้าสู่ตลาดได้อย่างคล่องตัว เพิ่มความหลากหลายให้กับงานบริการ และยังสามารถสร้างมูลค่าให้กับธุรกิจบริการของเรา อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุด คือ ผู้เข้าพักจะได้รับประโยชน์จากโอกาสใหม่ๆ ในการค้นหาเรื่องราวที่น่าสนใจจากเมืองปลายทางอันเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ และเอกลักษณ์เฉพาะตัว "  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการกลุ่ม บมจ.ดุสิตธานีกล่าว



 

    สำหรับแบรนด์ใหม่ลำดับที่ 2 ของกลุ่มดุสิตธานี จะเป็นการพลิกโฉมแบรนด์หรูที่มีอยู่เดิม  " ดุสิต เดวาราณา " เปลี่ยนเป็น " เดวาราณา-ดุสิต รีทรีตส์ "  เพื่อยกระดับประสบการณ์การเข้าพักที่มีคุณค่าในระดับอัลตร้า ลักซ์ชูรี

    แบรนด์ เดวาราณา-ดุสิต รีทรีตส์ ถูกพัฒนาขึ้นจากหลักการดูแลสุขภาพแบบไทยดั้งเดิม ผสมผสานกับแนวคิดของการท่องเที่ยวเชิงฟื้นฟูอย่างยั่งยืนเพื่อให้เกิดเป็นโปรแกรมเชิงสุขภาพแบบครบวงจร ที่คัดสรรมาเป็นพิเศษจากการผสมผสานเอกลักษณ์อันโดดเด่นของธรรมชาติในแต่ละชุมชน  เข้ากับหลักการบำบัดแบบโบราณ เพื่อมอบให้กับนักท่องเที่ยว ที่มองหาการฟื้นฟูและเยียวยาร่างกายและจิตใจ ในพื้นที่ที่มีความเป็นส่วนตัว อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ และโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่ถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อมอบความประทับใจอย่างสูงสุดแก่ผู้เข้าพักภายในที่พักอันหรูหรา มีความเป็นส่วนตัว เงียบสงบทั่วโลก 

    โดย "เดวาราณา-ดุสิต รีทรีตส์"แห่งแรกมีกำหนดเปิดให้บริการในเดือนตุลาคมนี้ที่ประเทศจีน และกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาตกลง เพื่อลงนามเพื่อสร้าง "เดวาราณา-ดุสิต รีทรีตส์" อีกหลายแห่งภายในปีนี้ ทั้งในยุโรป ตะวันออกกลาง และในจีน

 

ปัจจุบัน กลุ่มดุสิตธานีมีโรงแรม 55 แห่ง พร้อมดำเนินกิจการภายใต้ ดุสิต โฮเท็ล แอนด์ รีสอร์ท และ วิลล่าระดับลักซ์ชูรีกว่า 230 หลัง   ภายใต้ อีลิธฮาเวนส์ ใน 19 ประเทศ รวมถึงยังมีโรงแรมและรีสอร์ทในกลุ่มดุสิตธานีที่พร้อมจะเปิดมากกว่า 60 แห่งทั่วโลก และมีเป้าหมายการลงนามเพิ่มเติมอีก 22 แห่งในปีนี้

 



สามารถชม รายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง :   dusit-international.com

ขอบคุณข้อมูลและ รูปภาพ จาก ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ดุสิตอินเตอร์เนชั่นแนล