ช่วงนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาว เหมาะแก่การไปท่องเที่ยวที่สูงของประเทศไทยอย่างมาก เพราะอากาศนั่นจะมีความเย็นและชุ่มชื่นของน้ำฝนอยากมาก บรรยากาศเย็นสบาย สดชื่นใจสุด ๆ ซึ่งจังหวัดที่อยู่เหนือที่สุดของประเทศไทยก็คงหนีไม่พ้นจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่เป็นจังหวัดที่อยู่สูงที่สุดของประเทศ พร้อมกับมีทิวทัศน์มุมสูงที่สวยงาม มีภูเขาที่เขียวขจีแทรกตัดกับเมฆ หมอก บอกเลยว่าเป็นภาพที่หลายคนใฝ่ฝันที่จะเห็นอย่างมาก และรับประกันเลยว่าไปจังหวัดแม่ฮ่องสอนดังกล่าว เพราะจังหวัดแม่ฮ่องสอนขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองสามหมอก เมืองที่หมอกตลอดสามฤดู หากใครไปเที่ยวในฤดูหนาวก็จะพบกับหมอกน้ำค้าง เที่ยวในฤดูฝนจะเป็นหมอกเมฆ และเที่ยวฤดูร้อนจะมีหมอกควัน จึงเป็นที่มาของเมืองสามหมอกนั่นเอง วันนี้เราจึงได้รวบรวมโลเคชั่น 5 ที่เที่ยวที่จะได้ไปสัมผัสหมอกอย่างจุกใจ โดยจะมีที่ไหนบ้าง ตามมาอ่านกันต่อเลยดีกว่า 

บ้านรักไทย

Credit: ‘บ้านรักไทย’ เที่ยวหมู่บ้านชาวจีนยูนนาน นั่งเรือในหมอก จิบชาอุ่นในลมหนาว (thestandard.co)

          เริ่มกันด้วยโลเคชั่นแรกอย่างบ้านรักไทย ที่ตั้งอยู่ในต.หมอกจำแป่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน โดยสถานที่แห่งนี้นั้นเป็นหมู่บ้านของชาวจีนยูนนานหรือชื่ออีกอย่างชาวจีนฮ่อนั่นเอง ซึ่งในสมัยอดีตหมู่บ้านแห่งนี้นั้นสร้างโดยอดีตทหารจีนคณะชาติ กองพล 93 ที่อพยพลี้จากภัยสงครามกลางเมืองมาอยู่ที่ไทยและได้จัดกับพวกผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ที่เข้ามาบุกรุกไทย ทางรัฐบาลไทยให้ชาวจีนฮ่อเหล่านี้สามารถอยู่ในไทยได้อย่างถูกกฎหมายนั่นเอง จึงทำให้มีหมู่บ้าน 3 หมู่บ้านได้แก่หมู่บ้านสุริยะ หมู่บ้านสันติชล และหมู่บ้านรักไทย โดยหมู่บ้านรักไทยจะต่อกันขึ้นไปตามแนวภูเขา ซึ่งสถาปัตยกรรมการสร้างบ้านก็จะเป็นทรงจีน และสอดแทรกด้วยไร่ชาที่เขียวขจี พร้อมกับอ่างเก็บน้ำหรือเขื่อนในหมอกอยู่ใจกลางหมู่บ้าน ซึ่งจุดนี้นั้นก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลค์ที่นักท่องเที่ยวชอบอย่างมาก เพราะทางหมู่บ้านนั่นมีบริการร่องเรือจีน โคมไฟแดง พายเรือไปตามน้ำ และได้สัมผัสกับหมอกที่มีอากาศเย็นสบายอย่างกับไปเที่ยวประเทศจีนเลยก็ว่าได้ ทั้งยังได้ดื่มดำกับวัฒนธรรมจีนไทยที่ผสมผสานอย่างลงตัว   

พื้นที่นั่งชมบรรยากาศหมอกเย็น ๆ

Credit: ‘บ้านรักไทย’ เที่ยวหมู่บ้านชาวจีนยูนนาน นั่งเรือในหมอก จิบชาอุ่นในลมหนาว (thestandard.co)

บรรยากาศร่องเรือเขื่อนในหมอก

Credit: ‘บ้านรักไทย’ เที่ยวหมู่บ้านชาวจีนยูนนาน นั่งเรือในหมอก จิบชาอุ่นในลมหนาว (thestandard.co)

วัดพระธาตุดอยกองมู 

 Credit: วัดพระธาตุดอยกองมู จ.แม่ฮ่องสอน (Phra That Doi Kong Mu Temple) | Facebook

          ต่อกันด้วยโลเคชั่นที่สองอย่างวัดพระธาตุดอยกองมู ที่ตั้งอยู่ที่ ต.จองคำ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน โดยวัดแห่งนี้นั้นจะเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดแม่ฮ่องสอนเลยก็ว่าได้ ซึ่งเป็นวัดที่สวยงามมีองค์พระธาตุเจดีย์ตั้งสง่า 2 องค์ สีขาว โดยได้สร้างขึ้นตั้งแต่ปีพ.ศ. 2403 ซึ่งพระธาตุจะเป็นทรงมอญ ส่วนฐานพระธาตุจะเป็นทรง 8 เหลี่ยมซ้อนกัน 3 ชั้น และมีการปั้นปูประดับด้วยลวดลายสวยงาม พร้อมกับตั้งอยู่บนยอดภูเขาสูงมองเห็นจังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นมุมกว้าง สวยงาม ตัดกับป่าต้นไม้ที่เขียวขจี บอกเลยว่ายิ่งไปในช่วงที่พระอาทิตย์ขึ้นก็จะได้พบกับหมอกยามเช้าที่เย็นสบาย อากาศสุดบริสุทธิ์ หรือจะเป็นช่วงพระอาทิตย์ตกก็ให้ความรู้สึกที่งดงามและอบอุ่นใจไม่แพ้กัน นอกจากนี้ยังมีหลวงพ่อทันใจให้ได้เข้าไปกราบไหว้ สักการะเป็นสิริมงคลอีกด้วย

มองเห็นบรรยากาศจังหวัดแม่ฮ่องสอน 360 องศา

Credit: วัดพระธาตุดอยกองมู จ.แม่ฮ่องสอน (Phra That Doi Kong Mu Temple) | Facebook

พื้นที่ไหว้สักการะพระธาตุดอยกองมู

Credit: วัดพระธาตุดอยกองมู จ.แม่ฮ่องสอน (Phra That Doi Kong Mu Temple) | Facebook

น้ำตกแม่สุรินทร์

Credit: น้ำตกแม่สุรินทร์ : น้ำตกที่สูงที่สุดแม่ฮ่องสอน - Thesunsight

          ตามด้วยโลเคชั่นที่สามอย่างน้ำตกแม่สุรินทร์ ที่ตั้งอยู่ที่ต.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งอยู่ในการดูแลของอุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์ โดยน้ำตกแม่สุรินทร์จะจุดไฮไลท์อยู่ที่ความสูงของน้ำตกที่มีความสูงถึง 180 เมตร เรียกได้ว่าเป็นน้ำตกอีกหนึ่งแห่งที่สูงในประเทศก็ว่าได้  ซึ่งต้นน้ำของน้ำตกแม่สุรินทร์นั้นจะมาจากลำห้วยแม่สุรินทร์ไหลลงยังหน้าผาที่ความสูงลงไปหุบเขาด้านล่างเป็นป่าดงดิบที่มีความเขียวขจีสุดอุดมสมบรูณ์ ทั้งยังมีน้ำไหลลงมาตลอดปี ยิ่งในช่วงเดือนตุลาคมหรือหน้าฝนก็จะมีปริมาณที่เยอะอย่างมาก พร้อมกับมีวิวหมอก สอดแทรกภูเขาซ้อนด้านหลัง ให้ความรู้สึกสบายตา มองแล้วเพลินตาเพลินใจอย่างมาก หากใครอยากใกล้ชิดน้ำตกมากก็สามารถลงไปตามบันไดที่ทางอุทยานจัดไว้ให้ได้เลย เสมือนได้ออกกำลังกายและชมวิวบรรยากาศที่ธรรมชาติสร้างไปพร้อม ๆ กัน ทั้งยังมีพื้นที่ลานกางเต็นท์ที่รองรับได้ถึง 300 คนและบ้านพักของทางอุทยานถึง 7 หลังให้ได้ดื่มดำบรรยากาศสุดพิเศษอีกด้วย

น้ำตกแม่สุรินทร์

Credit: น้ำตกแม่สุรินทร์ : น้ำตกที่สูงที่สุดแม่ฮ่องสอน - Thesunsight

ทางขึ้นไปยังน้ำตกน้ำตกแม่สุรินทร์

Credit: น้ำตกแม่สุรินทร์ : น้ำตกที่สูงที่สุดแม่ฮ่องสอน - Thesunsight

  
ทุ่งดอกบัวตอง

Credit: อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ - โพสต์ | Facebook 

          ต่อด้วยโลเคชั่นที่สี่อย่างทุ่งดอกบัวตอง ที่ตั้งอยู่ดอยแม่อูคอ ต.แม่อูคอ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นทุ่งที่มีดอกบัวตองสีเหลืองอร่ามอยู่ท่ามกลางหุบเขาบนพื้นที่ 1,000 ไร่  โดยทุ่งบัวตองนั้นจะมีการบานสะพรั่งเต็มภูเขาในช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึง ธันวาคม ซึ่งจะมีไม่มีต้นไม้อื่นมาสอดแทรกนอกจากวิวภูเขาที่เขียวขจี อีกทั้งยังตั้งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 1,600 เมตร จึงทำให้ดอกบัวตองสามารถเติบโตได้อย่างเต็มที่ พร้อมทั้งยังมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นแบบ 360 องศา หรือจะชมที่ด้านล่างก็งดงามไม่แพ้กัน เพราะถนนจะมีการออกแบบเป็นเนินเขา เมื่อถ่ายรูปก็จะดอกบัวตองบานเต็มด้านหลังอย่างกับก้อนเมฆหรือท้องฟ้าสีเหลืองเลยก็ว่าได้ ทั้งยังมีร้านกาแฟ Posaho ที่เป็นภาษาของชาวกะเหรี่ยงที่แปลว่าเด็กน้อย ซึ่งเป็นร้านกาแฟของน้อง ๆ โรงเรียนบ้านหัวแม่สุริน มาให้บริการจิบกาแฟชมทุ่งดอกบัวตองไปเพลิน ๆ ได้ชมทั้งบรรยากาศสุดพิเศษ และยังส่งเสริมการศึกษานอกห้องเรียนของน้องไปพร้อม ๆ กัน

ดอกบัวตอง

Credit: อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ - โพสต์ | Facebook 

ร้านกาแฟ Posaho 

Credit: Ｐｏｓａｈｏ Ｃａｆｅ＇ กาแฟเด็กน้อยทำอร่อย (2littlebosses.com)

สะพานซูตองเป้ 

Credit: Hello Rainy | สะพานซูตองเป้ (xn--60-qqiho9gn1etczag5gd0g7etg.com)

          ปิดท้ายกันด้วยโลเคชั่นที่ห้าสะพานซูตองเป้ ที่ตั้งอยู่ที่บ้านกุงไม้สัก ม. 2 ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน โดยสะพานแห่งนี้จะเป็นสะพานไม้ไผ่ที่มีความยาวถึง 500 เมตร เรียกได้ว่าเป็นสะพานไม้ไผ่ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ ซึ่งสะพานแห่งนี้นั้นเริ่มสร้างจากการที่ชาวนำเสาบ้านและรั้วเก่ามาถวายกับทางวัด เพื่อให้เป็นสะพานในการเดินทางของพระสงฆ์ไปบิณฑบาตยังหมู่บ้านกุงไม้สักได้เลยขึ้น จึงตั้งชื่อสะพานแห่งนี้ว่าซูตองเป้ ที่เป็นภาษาของไทยใหญ่แปลว่าอธิษฐานสู่ความสำเร็จนั่นเอง พร้อมกับด้านล่างสะพานก็จะเป็นทุ่งนาที่เขียวขจี มองเห็นทิวทัศน์สวนธรรมภูสมะที่เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและมีหลวงพ่อซูตองเป้ที่เป็นพระพุทธรูปพม่า ตั้งสีทองอร่ามอยู่ด้านในสวนธรรมภูสมะ ให้ได้ไหว้สักการะเป็นสิริมงคลอีกด้วย

สะพานไม้ไผ่่

Credit: สะพานซูตองเป้ มหัศจรรย์แห่งศรัทธาของชาวแม่ฮ่องสอน (sanook.com)

บรรยากาศตักบาตรยามเช้า

Credit: สะพานซูตองเป้ มหัศจรรย์แห่งศรัทธาของชาวแม่ฮ่องสอน (sanook.com) 

        บอกเลยว่าแต่ละโลเคชั่นเป็นแลนมาร์คที่ใครไปจังหวัดแม่ฮ่องสอนก็จะต้องแวะไปเช็คอิน ถ่ายรูป พร้อมกับชื่นชมบรรยากาศเมืองสามหมอกและธรรมชาติที่สุดจะอุดมสมบรูณ์ เขียวขจีอย่างมาก ทั้งยังได้ไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นบ้านรักไทยที่ให้ได้ดื่มดำบรรยากาศวัฒนธรรมจีนฮ่อ หรือจะเป็นวัดพระธาตุดอยกองมูที่มีพระธาตุสีขาวตั้งสง่ากลางบบรรยากาศแม่ฮ่องสอน หรือจะไปชื่นชมน้ำตกที่มีความสูงถึง 180 เมตรที่น้ำตกแม่สุรินทร์ ต่อด้วยชมทุ่งดอกบัวตองสีเหลืองอร่ามท่ามกลางหุบที่งดงาม และปิดท้ายด้วยสะพานซูตองเป้ สะพานไม้ไผ่ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย หากใครมีโอกาสได้ไปจังหวัดแม่ฮ่องสอน ต้องบอกเลยว่าไม่ควรพลาดสถานที่ดังกล่าวอย่างมาก ที่ให้ทั้งความเพลิดเพลิน และสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ในทุกฤดู นอกจากนี้หากเพื่อน ๆ คนไหนที่สนใจอยากจะร่วมแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยวที่สุดประทับใจ ก็สามารถเข้าสมัครสมาชิกได้ที่ www.vsoture.com และสามารถติดตามบทความดี ๆ แบบนี้ได้ที่ www.vsoture.com และช่องทางโซเชียลทั้ง YouTube และ Facebook สำหรับวันนี้พวกเราของตัวลากันไปก่อน