เปิดพิกัด 5 วัดสีแปลกตา ที่ต้องไปกราบไหว้และเช็คอินสักครั้ง
โดยทั่วไปในอดีตเราจะเห็นว่าวัดนั้นเป็นที่ทำพิธีทางศาสนาต่าง ๆ และเน้นการตกแต่งตามฉบับดั้งเดิมที่ส่วนใหญ่จะออกโทนสีเหลือง สีเขียว สีส้ม สีน้ำเงินสลับกันไป โดยแต่ละสีก็มีความหมายเป็นนัยอย่างสีเหลืองจะหมายถึงความอุดมสมบรูณ์ สีเขียวหมายถึงความสดชื่น สีส้มหมายถึงความสุข และสีน้ำเงินหมายถึงการจัดระเบียบ ซึ่งจะมีการสลับสีอย่างน้อยสองสี แต่ในปัจจุบันได้มีการพัฒนารูปแบบวัดให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น มีการออกแบบตัววัดเป็นสีเดียวที่แปลกตาไป ทั้งยังออกแบบให้เป็นมากกว่าสถานที่ทางพิธีทางศาสนา โดยมีการออกสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ที่สะท้อนเรื่องราวของพุทธศาสนาให้ผู้คนเข้าใจได้ง่ายและมองเห็นภาพมากขึ้น ซึ่งมีความงดงามและเข้ากับยุคสมัยอย่างมาก ทำให้ผู้คนอยากไปกราบไหว้และถ่ายรูปเก็บความงดงามไว้ วันนี้เราจึงไม่พลาดที่จะเปิดพิกัด 5 วัดสีแปลกตา ที่ต้องไปกราบไหว้และเช็คอินสักครั้ง โดยจะมีที่ไหนกันบ้าง ตามไปอ่านกันต่อเลย
วัดร่องเสือเต้น
Credit: วัดร่องเสือเต้น :: Museum Thailand
เริ่มกันด้วยวัดแห่งแรกอย่างวัดร่องเสือเต้น ที่ตั้งอยู่ 306 หมู่ที่ 2 ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย โดยอดีตวัดแห่งนี้เป็นวัดร้างแต่ได้มีการบรูณะจนมีความงดงาม สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศได้อย่างมาก จนกลายเป็นแลนมาร์ดแห่งใหม่ของ จ.เชียงราย ซึ่งความเป็นของวัดแห่งนี้เคยเป็นวัดร้างที่มีอายุยาวนานถึงร้อยปี ชาวบ้านแถวนั้นหากจะทำพิธีทางศาสนาพุทธก็จะต้องเดินทางอีกวัดที่อยู่ไกล จึงคิดกันว่าควรจะมีการร่วมใจสร้างวัดแห่งนี้ใหม่เพื่อเป็นศูนย์ร่วมของชาวบ้านได้ทำพิธีร่วมกัน จึงได้นายพุทธา กาบแก้วหรือสล่านก ศิลปินพื้นบ้านชาวเชียงรายและเป็นลูกศิษย์ของ อ.เฉลิมชัย โดยมีการออกแบบวัดให้เป็นศิลปะแนวพุทธศิลป์ที่ร่วมสมัย ซึ่งโทนสีวัดจะเป็นสีน้ำเงินที่แสดงถึงธรมรมะหลักเหตุและผลที่พระพุทธเจ้าเผยแพร่ไปทั่วโลกนั่นเอง พร้อมกับมีพระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ องค์สีขาวมุกประดิษฐานในโบสถ์อย่างงดงาม พร้อมกับมีการตั้งชื่อว่าวัดร่องเสือเต้นที่มีความเป็นมาจากอดีตที่มีเสืออยู่ตามร่องน้ำเยอะมาก จึงเป็นที่มาของชื่อนั่นเอง
ภาพผนังที่ถ่ายทอดเรื่องราวพุทธศาสนา
Credit: วัดร่องเสือเต้น :: Museum Thailand
พญานาคหน้าวิหาร
Credit: วัดร่องเสือเต้น :: Museum Thailand
พระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ
Credit: วัดร่องเสือเต้น :: Museum Thailand
วัดบ้านเด่น
Credit: วัดเด่นสะหลีศรีเมืองแกน วัดสวยเชียงใหม่ ไหว้พระธาตุ 12 ราศี (tripgether.com)
มาต่อกันที่วัดแห่งที่สองอย่างวัดบ้านเด่น ที่ตั้งอยู่ ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งวัดแห่งนี้จะมีอีกชื่อคือวัดเด่นสะหลีศรีเมืองแกน โดยมีการออกแบบจากครูบาเจ้าเทือง นาถสีโลพัฒนาวัดให้สามารถดึงดูดผู้คนมากกว่าเป็นสถานที่ประกอบพิธี ซึ่งเป็นกุศโลบายของทางครูบาทที่อยากให้ผู้อยากมาแล้วได้สอดแทรกเรื่องราวของพุทธศาสนาไปพร้อมกัน โดยที่คนมานั้นรู้สึกสบายใจ จึงออกแบบวัดให้เป็นโทนสีขาวดำที่ดูแล้วน่าเกรงขาม แต่มีความสวยงามทันสมัยฉบับล้านนาประยุกต์ พร้อมกับพระธาตุประจำวันปีเกิด 12 นักษัตรไว้ใจกลางวัด ซึ่งคนที่มาก็สามารถกราบไหว้ตามปีเกิดนักษัตรได้ที่เดียวเลย อีกหนึ่งสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นไม่แพ้กันก็คือบันไดขาเข้าที่โดยปกติทั่วไปเราจะเคยเห็นแต่พญานาค แต่ด้วยทางวัดนั้นเป็นแบบล้านนาจึงเลือกพระยานกหัสดีลิงค์สิงห์กุตระพัฒนโกวิทที่เป็นองค์ศีรษะเป็นช้างสี่งา มีตัวเป็นนกยูง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสัตว์ในวรรณคดีที่งดงามและทำให้เราได้เห็นภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีพระสะหลีแก้วเกล้าเจ้าบุญเรืองเป็นพระประธานองค์ทองสำริด ให้ได้กราบไหว้เป็นสิริมงคลอีกด้วย
พระธาตุประจำวันปีเกิด 12 นักษัตร
Credit: วัดเด่นสะหลีศรีเมืองแกน วัดสวยเชียงใหม่ ไหว้พระธาตุ 12 ราศี (tripgether.com)
พระยานกหัสดีลิงค์สิงห์กุตระพัฒนโกวิท
Credit: วัดเด่นสะหลีศรีเมืองแกน - วัดบ้านเด่น เชียงใหม่ 清迈蓝庙 Wat Banden Blue Temple | Facebook
พระสะหลีแก้วเกล้าเจ้าบุญเรือง
Credit: อลังการ “วัดเด่นสะหลีศรีเมืองแกน” วัดงามสุดล้ำค่าแห่งดินแดนล้านนา (mgronline.com)
วัดนครเนื่องเขต
Credit: วัดนครเนื่องเขต วัดสวยฉะเชิงเทรา ชมความงามโบสถ์กระเบื้องเคลือบดินเผา (tripgether.com)
ต่อกันด้วยวัดแห่งที่สามอย่างวัดนครเนื่องเขตหรืออีกชื่อคือวัดต้นตาล ตั้งอยู่ที่ ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา โดยวัดแห่งนี้มีความโดดเด่นที่โบสถ์นั้นเป็นสีน้ำตาลหรือสีนาถที่มาจากการใช้กระเบื้องดินเผาเคลือบเงาที่ใช้เวลาสร้างถึงแปดปีจนมีความงดงาม แปลกตาจนนักท่องเที่ยวหลายคนอยากมาอย่างมาก ซึ่งการออกแบบก็มาจากชาวบ้านในแถบนั้นที่ช่วยกันสร้างและนำดินเผาจาก จ.อุบลราชธานีมาปั่นและเคลือบ พร้อมกับแกะสลักลวดลายอย่างสวยงาม นอกจากนี้ยังมีพระพุทธโสธรองค์จำลองเป็นพระประธานตั้งสง่างามให้อุโบสถ์ที่ตกแต่งภายในเป็นกระเบื้องลายหินอ่อนทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีให้ลอดใต้ท้องโบสถ์ให้ได้ปิดทองลูกนิมิตและชมภาพวาดผาผนังที่ถ่ายทอดเรื่องราวของพระพุทธศาสนาไว้อย่างดงาม
พระพุทธโสธรองค์จำลอง
Credit: วัดนครเนื่องเขต วัดสวยฉะเชิงเทรา ชมความงามโบสถ์กระเบื้องเคลือบดินเผา (tripgether.com)
ภายนอกวัดนครเนื่องเขต
Credit: วัดนครเนื่องเขต วัดสวยฉะเชิงเทรา ชมความงามโบสถ์กระเบื้องเคลือบดินเผา (tripgether.com)
ภายนอกวัดนครเนื่องเขต
Credit: วัดนครเนื่องเขต วัดสวยฉะเชิงเทรา ชมความงามโบสถ์กระเบื้องเคลือบดินเผา (tripgether.com)
วัดกลางคลองวัฒนาราม
Credit: นักรบตะวันออก | Facebook
ตามกันด้วยวัดแห่งที่สี่อย่างวัดกลางคลองวัฒนาราม ตั้งอยู่ที่ ต.เจ้าเสด็จ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา โดยวัดแห่งนี้จะมีความโดดเด่นของอุโบสถที่เป็นสีม่วงดูแปลกตาแต่งดงามอย่างมาก ซึ่งเป็นการริเริ่มสร้างจากพระใบฎีกาเอกลักษณ์ อาภสฺสโรที่เป็นเจ้าเจ้าอาวาสวัด โดยท่านได้เร่งเห็นว่าโบสถ์นั้นเก่าแก่มากจนเกิดการทรุดตัวและน้ำท่วมได้ง่าย หากมีการซ่อมก็จะทรุดตัวเช่นเคย จึงคิดทำใหม่โบสถ์ให้ทั้งหมดและจะต้องทำออกมาไม่มาใคร จึงได้โบสถ์สีม่วงที่ประดับไปด้วยดอกบัวแบบโมเสคที่มีแสงสะท้อนก็จะมีความเงางามและมีเรื่องราวพระพุทธศาสนาตามผนังที่มาจากการประยุกต์ของทางเจ้าอาสวาด พร้อมกับทำพื้นจากการเรซิ่นเสมือนเป็นลำธารที่มีปลาว่ายไปตามดอกบัว โดยมีทั้งปลาคาร์ปและปลากัด ซึ่งปลากัดนั้นสะท้อนพื้นที่ใน อ.เสนาที่เป็นแหล่งปลากัด จากนั้นก็มีสะพานตรงกลางเพื่อเดินไปกราบไหว้พระพุทธรูปปางมารวิชัยหลวงพ่อโตที่ประดิษฐานอยู่บนแท่นสูงตามสมัยอยุธยาและรัตนโกสินทร์ พร้อมตกแต่งฐานด้วยเพชรทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีเจดีย์เก่าตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ให้ได้ชื่นชมและมีพระหลวงพ่อเพชรที่มีอายุเก่าแก่ให้ได้กราบไหว้เป็นสิริมงคล
เรื่องราวพระพุทธศาสนาตามผนัง
Credit: นักรบตะวันออก | Facebook
ดอกบัวแบบโมเสค
Credit: วัดกลางคลองวัฒนาราม โบสถ์สีม่วงสวยอลังการ ที่เจ้าอาวาสสร้างด้วยตัวเอง! (sanook.com)
พื้นเรซิ่นเสมือนเป็นลำธารที่มีปลาว่าย
Credit: วัดสวยอำเภอเสนา "วัดกลางคลองวัฒนาราม" พระนครศรีอยุธยา (trueid.net)
วัดจันทร์ตะวันตก
Credit: สมศักดิ์ มุ่งเมือง | Facebook
ต่อด้วยวัดแห่งสุดท้ายอย่างวัดจันทร์ตะวันตก ตั้งอยู่ที่ 68/4 ม.10 ต.วัดจันทร์ อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก ที่มีความโดดเด่นในตัววิหารเรือนทองหรือวิหารทองคำศักดิ์สิทธิ์สมเด็จองค์ปฐมที่เป็นมหาวิหารสีทองคำ โดยจะตั้งอยู่ในตำแหน่งปลายสะพานสุพรรณกัลยา จึงมีความโดดเด่นและสง่างามเหมือนหลุดมีโลกดินแดนสวรรค์เลย ซึ่งผู้ริเริ่มสร้างก็คือพระอาจารย์อุบาลี อตุโลที่เป็นเจ้าอาวาสวัดจันทร์ตะวันตก โดยท่านได้ฝันสมเด็จองค์ปฐมจึงอยากสร้างวิหารให้สมเกียรติเสมือนหลุดมาจากสวรรค์ จึงมีความวิจิตร อลังการเหมือนประสาทราชวังอย่างมาก โดยมีการออกแบบในแนวจตุรีมิตรที่ไม่ว่าจะมองจากทางไหนก็จะเห็นเหมือนอยู่ด้านหน้าตลอด อีกทั้งการออกแบบทั้งหมดไม่ได้มาจากคอมพิวเตอร์กราฟิกแต่ใด ๆ แต่เป็นการสร้างขึ้นมาด้วยฝีมือคนทั้งหมด โดยภายในด้านในจะมีสองชั้น ซึ่งชั้นที่หนึ่งจะมีพระพุทธเมตตาประดิษฐานอยู่ ส่วนชั้นที่สองของสมเด็จองค์ปฐมปางมารวิชัยทรงเครื่องพระมหาจักรพรรดิ ที่สง่างาม นอกจากนี้ยังมีหลวงพ่อทองไหลมาให้ได้กราบไหว้ด้านนอกอีกด้วย
ภายนอกวัดจันทร์ตะวันตก
Credit: สมศักดิ์ มุ่งเมือง | Facebook
หลวงพ่อทองไหลมา
Credit: เที่ยวพิษณุโลก ตะลุยเมืองสองแคว ไหว้พระ ชมธรรมชาติ ชิลคาเฟ่ แบบครบรส (cockpit.co.th)
ต้องบอกเลยว่าแต่ละวัดนั้นมีจุดหลักที่ออกแบบให้มีความแปลกตาก็คือเพื่อดึงดูดผู้คนให้เข้าวัดด้วยใจที่ไม่ถูกบังคับ ไปแล้วสบายใจ พร้อมกับได้เรียนรู้เรื่องราวของศาสนาและเข้าใจได้ง่ายขึ้นอย่างมาก หากใครอยากหาวัดแปลกใหม่ที่เอาไว้เป็นความทรงจำที่สวยงาม เราก็แนะนำวัดทั้งห้าแห่งเลย ไม่ว่าจะวัดร่องเสือเต้น วัดบ้านเด่น วัดนครเนื่องเขต วัดกลางคลองวัฒนาราม และวัดจันทร์ตะวันตก ที่งดงาม อลังการอย่างมาก ส่วนเพื่อน ๆ คนใดที่อยากแชร์เรื่องราวการท่องเที่ยวก็สามารถสมัครเป็นสมาชิกได้ที่ www.vsotour.com และสามารถติดตามเรื่องราวการท่องเที่ยวได้ที่เว็บไซต์: www.vsotour.com Facebook: Vsotour และ YouTube: Vsotour ได้เลย สำหรับวันนี้พวกเราของลากันไปก่อน และพบกันใหม่ใครบทความต่อไป
พิกัด: วัดร่องเสือเต้น, วัดบ้านเด่น, วัดนครเนื่องเขต, วัดกลางคลองวัฒนาราม, วัดจันทร์ตะวันตก