บ้านาคูหา "มาซิมาแอ่ว เมืองแป้บ้านเฮา"
จะมีกี่เหตุผลที่ทำให้คนหลบความวุ่นวายในเมืองเพื่อมาสัมผัสกับธรรมชาติที่เงียบสงบบ้านนาคูหาคงเป็นชื่อ หนึ่ง ที่เราได้ยินหมู่บ้านเล็กๆที่ซ่อนตัวอยู่ในจังหวัดแพร่แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นพักความวุ่นวายในเมืองเพื่อมาสัมผัสวิถีชีวิตที่เรียบง่ายที่บ้านนาคูหาพอผมมาถึงในหมู่บ้านผู้คนที่นี่ต่างก็เข้ามาต้อนรับด้วยการทำบายศรีสู่ขวัญต้อนรับผมยิ้มให้กับความน่ารักและความเป็นกันเองของคนที่นี่ความรู้สึกอบอุ่นที่เหมือนกับอยู่ที่บ้านของตัวเองผมนั่งพูดคุยกับทุกคนด้วยความสนุกสนานคุณลุงคุณป้าบอกกับผมว่าจะพาผมไปเที่ยวอีกหลายที่เลยผมก็ตื่นเต้นอดใจรอไม่ไหวแล้วล่ะสิแสงพระอาทิตย์ยามบ่ายที่ดูไม่ค่อยร้อนอย่างที่เห็นผมก็ไปไหว้พระที่วัดหน้าคู่วัดที่มีพระพุทธรูปการหุบซึ่งถือว่าแปลกตาสำหรับผมบ้างก่อนผมจะไปที่พระธาตุอินทร์แขวนพระธาตุที่ดูแปลกตาสวยงามอย่างบอกไม่ถูกวิวข้างบนนั้นแทบจะทำให้ผมอยากหยุดเวลาเอาไว้ตรงนั้นปุยเมฆที่ลอยผ่านหุบเขาเป็นภาพที่หาดูได้ไม่ง่ายก่อนที่ผมจะเดินขึ้นไปเที่ยวชมที่ 5 สิงห์สถานที่ท่องเที่ยวที่น้อยคนจะรู้แต่ก็มีคนเข้ามาอยากจะวิชิตอยู่โดยทางคืนที่ค่อนข้างยากและลำบากแต่วิวด้านบนนั้นก็สวยเกินจะบรรยายจริงๆใครอยบ่ายผมไปดูวิธีการนวดช้าๆจากน้องๆเด็กนักเรียนที่นี่ซึ่งผมก็ได้ลองทำดูด้วยนะซึ่งวิธีการมันก็ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่ายรสชาติของชาก็อร่อยไม่เหมือนที่ไหนน้องๆทั้ง 3 คนพาผมขึ้นไปเก็บยอดใบชาที่ส่วนบนดอยด้วยทั้งสนุกและเหนื่อยจริงๆอีกที่ที่พลาดไม่ได้และต้องไปให้ได้นั่นคือบ่อเต่าหรือเรียกอีกอย่าง หนึ่ง ว่าสาหร่ายเตาซึ่งบ่อเต่าที่นี่มีการเพาะเลี้ยงแบบธรรมชาติจึง 3 ารถนำไปรับประทานได้อีกอย่างบ่อเต่ายังเป็นสิ่งที่สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านของที่นี่อีกด้วยคุณป้าบอกผมว่าที่ตรงนี้ยังเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวอีกด้วยเพราะเรา 3 ารถลงไปเก็บเต่าได้ด้วยตัวเองก่อนที่ผมจะไปดูการทำของฝากจากสิ่งที่มีอยู่ในหมู่บ้านอย่างข้าวเกรียบเตากาละแมร์เตาอุ่นเตาซึ่งของพวกนี้ก็ล้วนมาจากไอเดียและความคิดของคนในหมู่บ้านที่ช่วยกันทำออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากของในหมู่บ้านซึ่งวิธีทำแต่ละขั้นตอนนั้นก็ไม่ใช่ง่ายๆเลยนะครับว่าจะออกมาเป็นของกินเล่นในแต่ละอย่างต้องผ่านขั้นตอนการทำที่ค่อนข้างใช้เวลานานผมมีโอกาสได้ไปนั่งฟังคุณตาคุณยายจากชมรมผู้สูงอายุของที่นี่เล่าให้ฟังถึงการทำไม้กวาดซึ่งเป็นของอีกอย่างที่ทำกันในหมู่บ้านไม้กวาดที่นี่ทนไม่แข็งแรงมากพอทุกอันทำด้วยมือซึ่งเห็นถึงการใส่ใจรายละเอียดทุกขั้นตอนอีกทั้งความแข็งแรงของคุณตาคุณยายที่สุขภาพดีและร่าเริงตลอดเวลาตกเย็นฝนก็ตกลงมาผมรีบไปที่โฮมสเตย์ซึ่งเป็นคนท้องถิ่นที่นี่ทำผมได้รับการต้อนรับที่น่ารักจากคุณป้าเจ้าของโฮมสเตย์ที่นี่ดูสวยงามแปลกตาสำหรับผมมากการได้มาอยู่ในสถานที่แบบนี้มันเหมือนทำให้โลกของผมก้าวไปอย่างช้าๆหลังจากที่ผมเอาของเข้าไปเก็บเสร็จแล้วผมก็มานั่งทานข้าวที่คุณลุงคุณป้าเตรียมเอาไว้ให้ซึ่งกับข้าวแต่ละอย่างก็เป็นของพื้นบ้านพื้นถิ่นของที่นี่อย่างต่ำเต่าแก่งผักกูดไข่เจียวเต่าน้ำพริกผักต้มรอยยิ้มและเสียงหัวเราะอย่างเป็นกันเองจากคนที่นี่ทำให้ผมลืมไปทิ้งอะไรหลายๆอย่างไว้ข้างหลังแล้วมามีความสุขกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าอาหารมื้อนี้คงเป็นมื้อที่อิ่มทั้งกายและอิ่มทั้งใจเสียงบรรเลงเพลงจากดนตรีพื้นเมืองก็ดังขึ้นมาก่อนจะมีน้องๆมาฟ้อนรำกันอย่างสวยงามผมถามคุณป้าว่านี่คืออะไรป้าบอกกับผมว่าคือเพลงสและช่างซอช่างฟ้อนผมพอเข้าใจนะเพราะไม่เพียงแค่ผมที่รู้สึกสนุกหลายๆคนที่นี่ก็สนุกไปกับเพลงนั้นซึ่งเป็นภาพที่หาดูได้ยากยิ่งเป็นช่างซอช่างฟ้อนที่เป็นเด็กเยาวชนแล้วหาดูได้ยากจริงๆในยุคนี้ที่นี่เป็นหมู่บ้านเล็กๆก็จริงแต่ทางก็ 3 ารถไปในแหล่งท่องเที่ยวอื่นใดในเส้นทางนี้ไม่ว่าจะเป็นพระธาตุช่อแฮแพะเมืองผีผมจดบันทึกวางปากกาและปิดสมุดบันทึกเอาไว้บรรยากาศยามเย็นที่นี่มันช่างดูเงียบเหงาแต่ก็อบอุ่นในเวลาเดียวกันแสงพระอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้าผมมองเข้าไปยังหมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้ผมคิดว่าถ้าผมไม่ได้มาเห็นด้วยตัวเองก็คงไม่เชื่อว่ามันจะน่าอยู่ขนาดนี้บางทีความสุขเราก็ไม่ต้องใหญ่มากแค่ความสุขเล็กๆแค่นี้ก็มากพอแล้ว